บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

บทสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน


Credit: Canva.com

อยากพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? จริง ๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องเริ่มจากแกรมมาร์ยาก ๆ เลย — เริ่มจาก “บทสนทนาในชีวิตประจำวัน” นี่แหละ! วันนี้เรารวบรวมตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษง่าย ๆ ที่คุณสามารถใช้ได้จริงทุกวัน ทั้งเวลาเจอเพื่อน ทำงาน หรือเที่ยวต่างประเทศ 🇬🇧✨

☀️ 1. ทักทายทั่วไป (Greeting)

การทักทายคือจุดเริ่มต้นของทุกบทสนทนา
ลองใช้แบบนี้ดูค่ะ 👇 A: Hi! How’s your day? (สวัสดี! วันนี้เป็นยังไงบ้าง?)
B: Pretty good! How about you?
(ก็ดีนะ แล้วคุณล่ะ?)
A: I’m great, thanks! (ดีมากเลย ขอบคุณ!)

💡 Tip:


ใช้คำว่า “How’s your day?” หรือ “How’s it going?” แทน “How are you?” จะฟังดูธรรมชาติกว่าเวลาคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ ⸻

☕ 2. สั่งอาหาร หรือเครื่องดื่ม (At a café or restaurant)

A: Hi, can I get an iced latte, please? (สวัสดี ขอคาเฟ่ลาเต้เย็นหนึ่งแก้วค่ะ/ครับ)
B: Sure! Would you like sugar or syrup? (ได้เลย ต้องการน้ำตาล หรือไซรัปไหมคะ?)
A: No, thank you. Just milk. (ไม่ค่ะ แค่นมอย่างเดียว)

💬 ประโยคที่ควรจำ:

• Can I get…? = ขอ…หน่อยค่ะ/ครับ (ฟังดูสุภาพแต่เป็นกันเอง)
• To go or for here? = เอากลับบ้าน หรือทานที่นี่คะ? ⸻

🛍️ 3. ช็อปปิ้ง (Shopping)

A: Excuse me, how much is this shirt? (ขอโทษนะคะ เสื้อเชื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่?)
B: It’s 450 baht. (450 บาทค่ะ)
A: Do you have it in a smaller size? (มีไซซ์เล็กกว่านี้ไหมคะ?)
B: Yes, let me check for you. (มีค่ะ เดี๋ยวเช็กให้)

💡 Tip:


เวลาอยากต่อราคาแบบสุภาพ ลองใช้ว่า “Can you give me a better price?” (ลดได้อีกไหมคะ?) ⸻

🚕 4. เดินทาง หรือเรียกรถ (Travel / Transportation)

A: Hi, could you take me to Siam Paragon, please? (สวัสดี ช่วยพาไปสยามพารากอนหน่อยได้ไหมครับ?)
B: Sure! Do you want to take the highway? (ได้ครับ จะขึ้นทางด่วนไหม?)
A: Yes, please. It’s faster. (ครับ ทางนั้นเร็วกว่า)

💡 Tip:

• Could you take me to…? = ขอให้พาไปที่…
• Drop me off here, please. = จอดตรงนี้ได้เลยครับ ⸻

🧑‍💻 5. ที่ทำงาน (At work)

A: Can we have a quick meeting this afternoon? (เราประชุมกันสั้น ๆ ตอนบ่ายได้ไหม?)
B: Sure, what time works for you? (ได้เลย เวลาไหนสะดวก?)
A: Around 2 p.m., if that’s okay. (ประมาณบ่ายสอง ถ้าไม่ติดอะไรนะ)

💡 คำพูดน่ารู้ในที่ทำงาน:

• Let’s catch up later. = เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีนะ
• I’ll get back to you soon. = เดี๋ยวฉันจะติดต่อกลับไปเร็ว ๆ นี้ ⸻ 💬 สรุป การฝึกพูดภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องท่องจำเยอะ แค่เริ่มจาก “ประโยคที่ได้ใช้จริงทุกวัน” แล้วพูดออกเสียงบ่อย ๆ สมองจะจำได้เองโดยธรรมชาติ ✨ ลองเลือกสถานการณ์หนึ่งในแต่ละวัน แล้วพูดซ้ำในใจ หรือกับตัวเอง เช่น ตอนสั่งกาแฟ → ใช้ “Can I get a latte, please?” แค่นี้… คุณก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว 💪🌟 เคล็ดลับ: พูดผิดไม่เป็นไร แต่ “อย่าหยุดพูด” เพราะคนที่พูดได้จริง…คือคนที่กล้าพูด ❤️

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม