ดูหนังยังไงให้เก่งภาษาอังกฤษขึ้นจริง
ดูหนังยังไงให้เก่งภาษาอังกฤษขึ้นจริง


1. เริ่มจากหนัง หรือซีรีส์ที่คุณชอบจริง ๆ
อย่าฝืนดูเรื่องที่คนอื่นบอกว่าดี เลือกเรื่องที่คุณดูแล้ว “อิน” เช่น
• ชอบแนวอบอุ่น → Notting Hill, The Intern
• ชอบแนวสืบสวน → Sherlock, Brooklyn Nine-Nine
• ชอบแนวชีวิตประจำวัน → Friends, Emily in Paris
เพราะถ้าเราสนุกกับเรื่องราว สมองจะ “เปิดรับภาษา” โดยอัตโนมัติ
⸻
เปิด ซับไทย ได้เลยค่ะ
รอบนี้ดูเพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องก่อน จะได้ไม่งง อย่าหยุดทุกคำที่ไม่เข้าใจ เพราะจุดประสงค์คือ “เข้าใจภาพรวม” ไม่ใช่แปลทุกคำ
⸻
ตอนนี้เริ่มฝึกฟังเสียงจริงของเจ้าของภาษา ลองสังเกตจังหวะ น้ำเสียง และสำนวนที่ใช้ในชีวิตจริง เช่น
2. ดูรอบแรก “เพื่อความเข้าใจ”
เปิด ซับไทย ได้เลยค่ะ 
3. รอบสอง “เปิดซับอังกฤษ” แล้วฝึกฟังตาม
ตอนนี้เริ่มฝึกฟังเสียงจริงของเจ้าของภาษา ลองสังเกตจังหวะ น้ำเสียง และสำนวนที่ใช้ในชีวิตจริง เช่น
• You kidding me? (ล้อเล่นเหรอเนี่ย)
• No way! (ไม่มีทาง!)
• That makes sense. (ฟังดูสมเหตุสมผลนะ)
ดูช้า ๆ และกดหยุดได้ตามจังหวะที่อยากจดจำ
⸻
เลือกบางฉากที่พูดสั้น ๆ แล้วลองพูดตามเสียงในหนัง เลียนแบบจังหวะ และอารมณ์ เช่น
“I got it!”
4. ฝึกพูดตาม (Shadowing)
เลือกบางฉากที่พูดสั้น ๆ แล้วลองพูดตามเสียงในหนัง เลียนแบบจังหวะ และอารมณ์ เช่น
“I got it!”
“Don’t worry about it.”
“That’s so funny!”
ทำบ่อย ๆ จะช่วยให้พูดลื่นขึ้น สำเนียงดีขึ้นแบบไม่ต้องพยายามมาก
⸻
ไม่ต้องจดทุกคำ แค่เลือกที่ “ได้ใช้จริง” เช่น
5. เก็บคำ หรือสำนวนที่เจอบ่อย
ไม่ต้องจดทุกคำ แค่เลือกที่ “ได้ใช้จริง” เช่น
• by the way = อีกอย่างนะ
• take your time = ไม่ต้องรีบ
• come on! = เอาหน่อยสิ
เขียนไว้ในโน้ตมือถือ แล้วลองใช้ในชีวิตประจำวัน จะจำได้ยาวกว่าท่องแน่นอน
⸻
สรุป
การดูหนังให้เก่งอังกฤษไม่ใช่การ “พยายามเรียน” แต่คือ “ดูให้สนุก และใช้ภาษาในเรื่องนั้นเป็นครู” เริ่มจากเรื่องที่ชอบ ดูซ้ำทีละนิด พูดตามบ้าง จดบ้าง คุณจะรู้ตัวอีกทีตอนที่เริ่มฟังรู้เรื่องโดยไม่ต้องเปิดซับเลย! 




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น